ชื่อความรู้ การปรับกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม
และค่านิยมองค์กร
เจ้าของความรู้ นายประพันธ์ ทองสีดำ
ตำแหน่ง/สังกัด พัฒนาการอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
แก้ปัญหาเกี่ยวกับ การส่งเสริมและสนับสนุนการนำค่านิยมองค์กรสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน
เรื่องเล่า ค่านิยมองค์กร ABC DEF
๑. ส่วนนำ
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลาประสบผลสำเร็จได้หรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับบุคลากรของสำนักงานฯ เป็นสำคัญ เพราะหากบุคลากรยังมีกระบวนทัศน์
วัฒนธรรม และค่านิยมที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบบราชการ หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
แล้ว ก็จะเป็นการยากที่จะทำให้การพัฒนาระบบราชการของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลาประสบผลสำเร็จ
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตงซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดหน่วยงานข้างต้นก็ติดอยู่ในกรอบแนวคิดนี้เช่นกัน
ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จในการพัฒนาหรือการจะเปลี่ยนแปลงองค์กรใด
ๆ ขึ้นอยู่กับทัศนคติของบุคลากรเป็นสำคัญ ดังที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของข้าราชการ ยุคใหม่ไว้ดังนี้
I : Integrity การปฏิบัติงานอย่างมีศักดิ์ศรี
คำอธิบาย : การทำงานด้วยความซื่อสัตย์
สุจริต และทุ่มเทให้กับการทำงาน ภายใต้กฎระเบียบและวิชาชีพ
เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน และส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
A : Activeness ความขยัน ตั้งใจทำงาน
ปฏิบัติงานเชิงรุก
คำอธิบาย : การทำงานด้วยความกระตือรือร้น
มีความรู้ มีความสามารถในงานที่รับผิดชอบ มีความคิดสร้างสรรค์
พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
และพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อให้งานสำเร็จตามที่ได้รับมอบหมายอย่างมีคุณภาพและทันเวลา
M : Morality การมีใจคุณธรรม
ปฏิบัติราชการด้วยใจบริสุทธิ์ และกุศลเจตนา
คำอธิบาย : การปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับหลักศาสนา
และกฎระเบียบต่าง ๆ เช่น คุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส
รวมถึงการปฏิบัติงานที่ปราศจากอคติ และมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียน
R : Relevancy การเรียนรู้
และปรับตัวทันโลกตรงกับสังคม
คำอธิบาย : การยอมรับและเรียนรู้เครื่องมือ
เทคโนโลยี และความคิดใหม่ๆ
รวมถึงความสามารถในการประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนากระบวนงาน
E : Efficiency การทำงานที่มีประสิทธิภาพ
สามารถวัดและแสดงได้อย่างชัดเจน
คำอธิบาย : การพัฒนาบุคลากร
ระบบงาน และการให้บริการเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ถูกต้อง
และปลอดภัยในการปฏิบัติงาน รวมถึงการมุ่งให้งานสำเร็จโดยใช้ต้นทุนต่ำ
A :
Accountability ความรับผิดชอบต่อผลสำเร็จของงาน
และต่อสาธารณะ
คำอธิบาย : ปฏิบัติราชการโดยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนที่จะต้องทำประโยชน์เพื่อประชาชนและสังคม
รวมถึงความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย พร้อมที่จะถูกตรวจสอบและเปิดรับฟังข้อเสนอแนะหรือทำประชาพิจารณ์จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยให้ความสำคัญต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่
D : Democracy การมีใจเป็นประชาธิปไตย
คำอธิบาย : การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากบุคลากร
ทีมงาน ผู้รับบริการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงรูปแบบการทำงานเป็นทีม
และการแต่งตั้งคณะทำงานมากขึ้น
Y : Yield การมีผลงานเป็นที่ประจักษ์
และปฏิบัติงานโดยเน้นผลสัมฤทธิ์เป็นสำคัญ
คำอธิบาย : ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ
หรือบรรลุเป้าหมายตามตัวชี้วัด โดยผลงานต้องได้มาตรฐานตามกำหนดเวลา
ลดขั้นตอนในการทำงาน ประชาชนพึงพอใจ โดยมุ่งผลลัพธ์มากกว่าขั้นตอนและระเบียบแบบแผน
จากภารกิจสำคัญในการปฏิรูประบบราชการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการดังกล่าว
กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้ดำเนินการศึกษาและพัฒนากระบวนการออกแบบค่านิยมองค์กร ๔ Ds Phasing โดยมีอาจารย์จากสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ( ดร.อรัญ โสตถิพันธุ์) เป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงานตามกระบวนการโดยดำเนินการศึกษาค่านิยมที่พึงประสงค์ของกรมการพัฒนาชุมชนตามจุดแข็งของบุคลากรและตามบริบทในการปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคน
ซึ่งมีผลลัพธ์ดังนี้
A : Appreciation ชื่นชมผู้อื่น
คำอธิบาย : การทำงานพัฒนาชุมชนถ้าเราไม่สามารถชื่นชมบุคคลอื่นจะทำให้การทำงานแบบ
Work
With ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย
คนที่เป็นนักพัฒนาจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ว่าจะชื่นชมผู้อื่นได้อย่างไร
นอกจากนี้ตัว A หรือ Appreciation ยังเป็นอักษรตัวแรกของกระบวนการฝึกอบรมตามเทคนิค
AIC ซึ่งเทคนิค AIC จะมุ่งให้ผู้ที่อยู่ในกระบวนการได้รู้จักชื่นชมผู้อื่นก่อน
เป็นลำดับแรก โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. ทักทาย
สวัสดี ยกมือไหว้ ยิ้มแย้มแจ่มใส
๒. มีปิยะวาจา
กล่าวคำขอบคุณ ขอโทษ ไม่เป็นไรตามโอกาสให้เป็นนิสัย
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของผู้อื่น
๒. ยกย่อง ชมเชย
ความรู้ความสามารถของผู้อื่น
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. แสดงออก พูด
คิด ทำ ในเชิงสร้างสรรค์
๒. เป็นแบบอย่างของผู้ร่วมงานและทีมงานที่ดี
B : Bravery
กล้าหาญ
คำอธิบาย : ต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจในการทำงาน
กล้าที่จะเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานทั้งเชิงสร้างสรรค์
และเชิงคัดค้าน รวมถึงกล้าที่จะชื่นชมผู้อื่น โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน
๒. ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ยอมรับความคิดเห็น
ข้อวิพากษ์ และข้อวิจารณ์ของผู้อื่นได้
๒. รับผิดชอบต่อผลงาน
และผลการกระทำของตนเอง
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. เป็นแบบอย่างในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
๒. กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
C : Creativity ริเริ่มสร้างสรรค์
คำอธิบาย : ต้องมีความกล้าที่จะคิดริเริ่มสร้างสรรค์
กระตุ้น และผลักดันให้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นั้นปรากฏผลเป็นรูปธรรม โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง
๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. พัฒนาและปรับปรุงงานที่รับผิดชอบเสมอ
๒. แสดงความคิดเห็นใหม่
ๆ ในการทำงาน
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. นำความคิดมาพัฒนางาน
และเสนอผลงานให้แตกต่างและดีกว่าเดิม
๒. วิจัย
และพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. มีนวัตกรรมในการทำงาน
๒. เป็นตัวอย่างในการส่งเสริมให้เพื่อนร่วมงานคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์
D : Discovery ใฝ่หาความรู้
คำอธิบาย : ต้องมีความกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรู้
จึงจะเกิดหรือค้นพบในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน
และนำความรู้ที่ค้นพบมาเป็นพื้นฐานในการทำงาน โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ
ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. กระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
๒. ชอบตั้งคำถาม
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. สามารถนำความรู้มาพัฒนางานได้
๒. ชอบค้นหาความรู้ใหม่
ๆ
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. มีการเรียนรู้และพัฒนางานของตนเองอย่างต่อเนื่อง
๒. มีผลงานจากการนำความรู้มาปฏิบัติจนเห็นเป็นรูปธรรม
E : Empathy
เข้าอกเข้าใจ
คำอธิบาย : ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น
หรือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยพยายามเข้าใจว่าทำไมเขาจึงเป็นเช่นนั้น
(ไม่ใช่การเห็นอกเห็นใจ หรือการไม่รู้สึกอะไรเลย) โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ
ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. เป็นผู้ฟังที่ดี
๒. รับรู้เรื่องราวต่าง
ๆ อย่างมีเหตุมีผล
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ยอมรับความแตกต่างของบุคคลอื่น
๒. รู้และเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเข้าอกเข้าใจอย่างมีเมตตา
๒. ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ
F : Facilitation เอื้ออำนวยความสะดวก
คำอธิบาย : เป็นวิธีการหนึ่งของนักพัฒนาที่จะต้องเอื้ออำนวยให้ผู้อื่นสามารถทำกิจกรรมจนบรรลุเป็นผลสำเร็จได้ตามต้องการ
โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. วางตัวให้เหมาะสมตามกาลเทศะ
๒. มีทักษะในการสื่อสารให้บุคคลอื่นสามารถเข้าใจและปฏิบัติได้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ให้โอกาสผู้อื่นในการคิดและตัดสินใจ
๒. ช่วยทำให้งานของผู้อื่นง่ายขึ้น
และเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. ช่วยทำให้การทำงานของผู้อื่นมีประสิทธิภาพ
และเกิดประสิทธิผล
๒. เป็นแบบอย่างของผู้เอื้ออำนวย
๒. ส่วนขยาย
ก่อนตัดสินใจกำหนดดำเนินการปรับกระบวนทัศน์
วัฒนธรรมและค่านิยมองค์กรของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตง ทีมงานพิจารณาแล้วเห็นว่า
“ทำอย่างไรบุคลากรจึงจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข รักใคร่ สามัคคีปรองดองแบบพี่แบบน้อง
มีชีวิตชีวา ไม่แข็งกระด้าง สักแต่จะทำงานให้จบไปวันๆ” จากแนวคิดดังกล่าว
จึงนำไปสู่การกำหนดแนวปฏิบัติ “งานได้ผล คนมีค่านิยม และมีความสุข” ตาม ๖ ขั้นตอน
ดังนี้
ขั้นตอนที่
๑
กำหนดยุทธศาสตร์ของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตง ประจำปี ๒๕๕๗ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของบุคลากรในสำนักงานฯ
และกำหนดไว้อย่างเป็นทางการ
ขั้นตอนที่
๒ จัดทำแผนงาน “ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมฯ
ด้วยค่านิยมองค์กร” โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ
ขั้นตอนที่
๓ กำหนดตัวชี้วัด
และค่าเป้าหมายในการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ที่
|
ตัวชี้วัด
|
น้ำหนัก
|
คะแนน
|
เป้าหมาย
|
หมายเหตุ
|
๑
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ชื่นชม” (Appreciation)
|
๑๖
|
๕
|
ร้อยละ
๘๐ ของบุคลากร สพอ.เบตง (๔ คน)
ที่ได้คะแนนประเมินรวม ๖ ข้อ
แต่ละตัวชี้วัด ตั้งแต่ ๒๔-๓๐ คะแนน
|
|
๒
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “กล้าหาญ” (Bravery)
|
๑๖
|
๕
|
๓
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “สร้างสรรค์” (Creativity)
|
๑๖
|
๕
|
๔
|
ร้อยละของบุคลากร สพอ.เบตง
ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ใฝ่รู้” (Discovery)
|
๑๖
|
๕
|
๕
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เข้าใจ” (Empathy)
|
๑๖
|
๕
|
๖
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เอื้ออำนวย” (Facilitation)
|
๒๐
|
๕
|
รวม
|
๑๐๐
|
|
|
|
เกณฑ์การให้คะแนนตัวชี้วัด
- ตัวชี้วัด ABC DEF (ข้อ ๑ - ๖)
ตัวอย่าง
เกณฑ์การให้คะแนนตัวชี้วัดค่านิยม “ชื่นชม”
ร้อยละ
๘๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (5 คะแนน)
|
ร้อยละ
๗๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (4 คะแนน)
|
ร้อยละ
๖๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (3 คะแนน)
|
ร้อยละ
๕๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (2 คะแนน)
|
ร้อยละ
๔๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (1 คะแนน)
|
ขั้นตอนที่ ๔
จัดทำแผนปฏิบัติการฯ โดยกำหนดกิจกรรมที่จะต้องปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนค่านิยมองค์กรทั้ง
๖ ตัวชี้วัดให้บรรลุเป้าหมาย
ขั้นตอนที่ ๕ ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการโดยจัดทีมขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร
ดังนี้
ทีมที่
๑ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๑
ร้อยละของบุคลากร สพอ.เบตงที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ชื่นชม” (Appreciation)
ทีมที่ ๒
รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๒ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตงที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “กล้าหาญ” (Bravery)
ทีมที่
๓ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๓ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม“สร้างสรรค์” (Creativity)
ทีมที่
๔ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๔
ร้อยละของบุคลากร สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ใฝ่รู้” (Discovery)
ทีมที่
๕ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๕ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เข้าใจ” (Empathy)
ทีมที่
๖ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๖ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เอื้ออำนวย” (Facilitation)
นอกจากนี้
เพื่อสร้างผู้รับผิดชอบหลักในการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กรให้เป็นรูปธรรมชัดเจน
สพอ.เบตง จึงได้ดำเนินการคัดเลือกทูตค่านิยมองค์กรทีมละ ๑ คน (บุคลากรมี
๔ คน จึงซ้ำกัน) โดยกำหนดให้มีหน้าที่ ดังนี้
๑. ศึกษาและแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ดีตามแนวทางของค่านิยมองค์กร
ABC
DEF เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เพื่อนร่วมงาน
๒. ส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากร
ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามตัวชี้วัดที่ยังมีคะแนนประเมินต่ำกว่าเกณฑ์
๓. ทำหน้าที่ประสานงานภายในทีมและนอกทีม
๔. ทำหน้าที่ประเมินผลในภาพรวมของการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร
๕. ทำหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
และ สพอ.เบตง ได้ดำเนินการกำหนดปัจจัยหลัก
และวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาที่ส่งผลสำเร็จต่อการนำค่านิยมองค์กร ABC DEF สู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
ด้วยเครื่องมือ ดังนี้
๑) การประเมินตนเองเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข
๒) การนำผลการประเมินตนเองสู่การปรับปรุงแก้ไข/สร้างแรงจูงใจ
ทีมงาน
สพอ.เบตง กำหนดกิจกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติตามค่านิยม ABC DEF โดยได้พิจารณาจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมสนับสนุน/สร้างแรงจูงใจ ให้บุคลากร ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามค่านิยม ABC DEF ที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนและต่อเนื่อง
โดยกำหนดให้มีกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่
๑ “ปฏิบัติอย่างไร
ให้คนอื่นชื่นชม” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่
๑
กิจกรรมที่
๒ “ขอบอกว่าดี
และยังมีให้แก้ไข”
โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๒
กิจกรรมที่
๓ “แค่คิดใหม่ อะไร ๆ
ก็เปลี่ยนแปลง” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่
๓
กิจกรรมที่
๔ “ ความรู้อยู่ไหน ใคร ๆ ก็ถามหา”
โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๔
กิจกรรมที่
๕ “หนึ่งคนเข้าใจเรา” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๕
กิจกรรมที่
๖ “จงเป็นผู้เอื้ออำนวยเพื่อช่วยให้งานผู้อื่นง่ายขึ้น” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๖
ตัวอย่างวิธีดำเนินการ
กิจกรรม “ปฏิบัติตนอย่างไร
ให้คนอื่นชื่นชม” (Appreciation)
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของผู้อื่น
๒. เพื่อยกย่องชมเชยความรู้
ความสามารถของผู้อื่น
๓. เพื่อให้มีการแสดงออก พูด คิด ทำเชิงสร้างสรรค์
๔. เพื่อให้เป็นแบบอย่างของผู้ร่วมงาน
และทีมงานที่ดี
วิธีการ ให้ทุกคนเขียนชื่อและคำชื่นชมของคนที่ตนเองชื่นชมทุก
๑๕ วัน ใส่ในกล่องที่เตรียมไว้ เมื่อสิ้นสุดกิจกรรมเปิดกล่องและรวบรวมจัดทำเป็นเล่มที่สวยงาม
มอบให้เจ้าตัวเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี
ขั้นตอนที่ ๖ การติดตามผลการปฏิบัติตามแผนฯ และการประเมินผล
๑.
แบบประเมินพฤติกรรมตามค่านิยม ABC DEF สำหรับตนเอง
(ทุกคนประเมินตนเอง) ซึ่งประกอบด้วย
จำนวน ๖
ตัวชี้วัดหลัก และ ๓๖ ตัวชี้วัดย่อย
๒.
แบบประเมินพฤติกรรมค่านิยม ABC DEF สำหรับการมีส่วนร่วมของทุกคน
ซึ่งประกอบด้วย จำนวน ๖ ตัวชี้วัดหลัก และ ๓๖ ตัวชี้วัดย่อย
๓.
แบบเปรียบเทียบผลการประเมินหากพบว่าคะแนนที่ได้ยังไม่ผ่านเกณฑ์
บุคคลผู้นั้นจะต้องวางแผนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
๓. ส่วนสรุป
นอกจากรูปแบบ (Model)
ที่ สพอ.เบตงนำเสนอทั้ง ๖ ขั้นตอนในการเสริมสร้างค่านิยมองค์กรในหน่วยงานอย่างยั่งยืนแล้วยังต้องใช้กลยุทธ์ในการเสริมสร้างค่านิยมองค์กรด้วยวิธีการ
ให้ดูผู้บริหารทุกระดับ
(จังหวัดและอำเภอ) ที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ด้วยหลักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา
และความเอื้ออารีต่อกัน นอกจากนี้ สพอ.เบตง ยังกำหนดให้บุคลากรในสังกัดทุกคนต้องยึดเป้าหมายในการทำงานร่วมกันคือ
“ประโยชน์สูงสุดของประชาชน” โดยนำ กลยุทธ์
๔ พ. มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร ดังนี้
๑) พึ่งตนเอง เน้นให้บุคลากรในสังกัดทำงานอย่างมืออาชีพ
ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี มีความตั้งใจ ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติภารกิจ
และมีความรอบรู้ในเนื้องานอย่างชัดเจน
๒) พอดี ส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดยึดหลักประชาธิปไตยในการทำงาน
ยอมรับหลักการมีส่วนร่วม มีความโปร่งใส
ปรับตัวได้เท่าทันตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง และมีความสมดุลย์ทั้งการใช้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานในทุกมิติ
๓) พอเพียง สนับสนุนให้บุคลากรในสังกัดนำหลักความพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตการทำงาน
โดยคำนึงถึงความรอบคอบ ครอบคลุม มีเหตุมีผล มีศีลธรรมจรรยา
และความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
๔) พอใจ สพอ.เบตง สนับสนุน
และเอื้ออำนวยให้การทำงานของบุคลากรในสังกัดมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดย สพอ.เบตง
จะสนับสนุนการปฏิบัติตามภารกิจของหน่วยงานในทุกด้าน
และจะวัดผลสัมฤทธิ์ด้วยการวัดความพึงพอใจของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในการปฎิบัติงานตามภารกิจของกรมฯ
จากความมุ่งมั่นของบุคลากรในสังกัด สพอ.เบตง
ที่จะนำค่านิยมองค์กรไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนด้วย Model ที่นำเสนอและกลยุทธ์
๔ พ ...เพื่อรวมพลังก้าวสู่เป้าหมายสุดท้ายร่วมกัน นั่นคือ “
งานได้ผล คนมีสุข” นั่นเอง
...............................................................................................................................................