การจัดการความรู้ Km (Knowledge Management)
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558
วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557
KM OTOP Diary (OD) สมุดบันทึกการปฏิบัติงานของกลุ่ม OTOP
KM OTOP Diary (OD)
สมุดบันทึกการปฏิบัติงานของกลุ่ม OTOP
นายนิเลาะ นิธิพันธุ์กุล
นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าโอทอป (OTOP) หรือ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” เป็นแนวคิดที่กำเนิดขึ้นจากแนวคิดธุรกิจชุมชนเพื่อพัฒนาประเทศของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเรียกว่า โครงการ One Village One Product หรือ OVOP ที่รัฐบาลไทยเอามาปรับใช้และประกาศเป็นนโยบายสำคัญในปี พ.ศ. 2544 โดยใช้ชื่อว่า “One Tambon One Product” หรือOTOP โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานสร้างรายได้แก่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนให้สามารถคิดเอง ทำเอง ในการพัฒนาท้องถิ่นเสริมสร้างภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในท้องถิ่น
ในการดำเนินงานดังกล่าว รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ หรือเรียกโดยย่อว่า กอ.นตผ. ให้มีอำนาจหน้าที่หลายประการ เช่น การกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ และแผนแม่บทการดำเนินงาน “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” กำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์การคัดเลือกและขึ้นบัญชีผลิตภัณฑ์ดีเด่นของตำบลรวมทั้งสนับสนุนให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายยุทธศาสตร์และแผนแม่บทอย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งให้กำหนดนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพ บริหารจัดการโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ คณะกรรมการ กอ.นตผ. จึงได้กำหนดประเภทของผลิตภัณฑ์ชุมชน ไว้ 5 ประเภท ประกอบด้วย 1) ประเภทอาหาร 2) ประเภทเครื่องดื่ม 3) ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 4) ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก และ 5) ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร
การดำเนินงานของกลุ่ม OTOP ที่ผ่านมา กลุ่ม OTOP ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการกลุ่มเท่าที่ควร และขาดการเอื้อหนุนที่ดีจากทุกภาคส่วน โครงการ OTOP Diary สมุดปฏิบัติงานของกลุ่ม OTOP จึงเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่จะเอื้ออำนวยให้การดำเนินงานของกลุ่ม OTOP มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขุมความรู้
1. แนวคิดภูมิปัญญาไทย (Thai Wisdom)
2. แนวคิดโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์
แก่นความรู้
เนื้อหาของสมุดบันทึก
กลยุทธ์ในการทำงาน
1. ประชุมคณะกรรมการเครือข่าย OTOP
2. ออกแบบสมุดบันทึกการปฏิบัติงาน
3. จัดทำสมุดบันทึกการปฏิบัติงาน
4. กลุ่ม OTOP บันทึกงานปฏิบัติงาน
5. ติดตาม/วิเคราะห์/ประเมินผล
สมุดบันทึกการปฏิบัติงานของกลุ่ม OTOP
นายนิเลาะ นิธิพันธุ์กุล
นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าโอทอป (OTOP) หรือ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” เป็นแนวคิดที่กำเนิดขึ้นจากแนวคิดธุรกิจชุมชนเพื่อพัฒนาประเทศของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเรียกว่า โครงการ One Village One Product หรือ OVOP ที่รัฐบาลไทยเอามาปรับใช้และประกาศเป็นนโยบายสำคัญในปี พ.ศ. 2544 โดยใช้ชื่อว่า “One Tambon One Product” หรือOTOP โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานสร้างรายได้แก่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนให้สามารถคิดเอง ทำเอง ในการพัฒนาท้องถิ่นเสริมสร้างภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในท้องถิ่น
ในการดำเนินงานดังกล่าว รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ หรือเรียกโดยย่อว่า กอ.นตผ. ให้มีอำนาจหน้าที่หลายประการ เช่น การกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ และแผนแม่บทการดำเนินงาน “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” กำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์การคัดเลือกและขึ้นบัญชีผลิตภัณฑ์ดีเด่นของตำบลรวมทั้งสนับสนุนให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายยุทธศาสตร์และแผนแม่บทอย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งให้กำหนดนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพ บริหารจัดการโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ คณะกรรมการ กอ.นตผ. จึงได้กำหนดประเภทของผลิตภัณฑ์ชุมชน ไว้ 5 ประเภท ประกอบด้วย 1) ประเภทอาหาร 2) ประเภทเครื่องดื่ม 3) ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 4) ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก และ 5) ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร
การดำเนินงานของกลุ่ม OTOP ที่ผ่านมา กลุ่ม OTOP ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการกลุ่มเท่าที่ควร และขาดการเอื้อหนุนที่ดีจากทุกภาคส่วน โครงการ OTOP Diary สมุดปฏิบัติงานของกลุ่ม OTOP จึงเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่จะเอื้ออำนวยให้การดำเนินงานของกลุ่ม OTOP มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขุมความรู้
1. แนวคิดภูมิปัญญาไทย (Thai Wisdom)
2. แนวคิดโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์
แก่นความรู้
เนื้อหาของสมุดบันทึก
กลยุทธ์ในการทำงาน
1. ประชุมคณะกรรมการเครือข่าย OTOP
2. ออกแบบสมุดบันทึกการปฏิบัติงาน
3. จัดทำสมุดบันทึกการปฏิบัติงาน
4. กลุ่ม OTOP บันทึกงานปฏิบัติงาน
5. ติดตาม/วิเคราะห์/ประเมินผล
เทคนิคการทำงานกับผู้นำ อช.ตามบทบาทหน้าที่ในการกระตุ้นชุมชนให้เกิดการพัฒนา”
โครงการหนึ่งนักพัฒนา หนึ่งโครงการริเริ่มสร้างสรรค์
“เทคนิคการทำงานกับผู้นำ อช.ตามบทบาทหน้าที่ในการกระตุ้นชุมชนให้เกิดการพัฒนา”
ส่วนที่ ๑ บทนำ
ด้วยกรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินงานตามโครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนตามมติคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๑๒ มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า ๔๐ ปี ด้วยแนวคิดที่ว่า งานพัฒนาชุมชน คนในชุมชน ย่อมมีความรู้ ความเข้าใจต่อปัญหาได้ดีกว่า โดยมีเป้าประสงค์ที่จะสนับสนุนให้ผู้นำ อช.เป็นนักพัฒนาภาคประชาชน สามารถทำงานทดแทนเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนได้ และได้มอบหมายให้ผู้นำ อช.เข้ามามีบทบาทในการเป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุน และประสานการดำเนินงานด้านการพัฒนาชุมชน
ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๒ ด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถการบริหารงานชุมชน มีเป้าประสงค์ให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาคน เพื่อให้มีความสามารถในการบริหารงานในหมู่บ้าน/ชุมชนของตนเองให้เกิดการพัฒนาเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสังคมเกิดการสามัคคี เกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
และจากการที่ได้ปฏิบัติงานในพื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา การที่จะพัฒนาพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องพัฒนาคน ซึ่งประชาชนและผู้นำชุมชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ยึดขนบธรรมเนียมประเพณี หลักศาสนา ในการดำรงชีวิต ผู้นำส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจในการบริหารงานชุมชนค่อนข้างน้อย พัฒนากรจึงต้องหาตัวกระตุ้นให้ผู้นำชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจในการบริหารงานชุมชน ให้ประชาชนรู้จักช่วยตนเองและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ริเริ่มและสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง จึงเล็งไปที่ผู้นำ อช. ซึ่งได้มองเห็นแล้วว่า เป็นผู้ที่มีจิตอาสาที่จะพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีความคิดและจัดทำโครงการหนึ่งนักพัฒนา หนึ่งโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อเป็นการพัฒนาคนและให้เกิดแรงกระตุ้นแก่ผู้นำชุมชนในการพัฒนาหมู่บ้านให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อให้ผู้นำ อช.ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทของตนเอง และเป็นต้นแบบที่ดีแก่หมู่บ้านอื่น ๆ
๒. เพื่อสร้างผู้นำ อช.รุ่นใหม่ให้มีคุณภาพ (ผู้นำ อช.รักบ้านเกิด)
๓. เพื่อให้ผู้นำ อช.เป็นแรงกระตุ้นผู้นำชุมชนในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนให้เกิดผลสำเร็จ
๔. เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้นำ อช.และทีมผู้นำชุมชน เพื่อให้รู้จักการบริหารงานในพื้นที่
เป้าหมาย
ผู้นำ อช., อช. และทีมผู้นำชุมชนในพื้นที่บ้านกาบัง หมู่ที่ ๗ ตำบลกาบัง อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
วิธีการและกระบวนการดำเนินงาน
๑. สร้างความคุ้นเคยพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของผู้นำ อช./อช.
๒. จัดเวทีระดมความรู้จากแกนนำและผู้นำ อช.
๓. ค้นหาความรู้จากสื่ออื่น ๆ เช่น ความรู้ในชุมชน/วัฒนธรรม/ปราชญ์ชาวบ้าน/สื่ออินเทอร์เน็ต
๔. ประชุมสร้างความรู้ ความเข้าใจกับผู้นำ อช. อช. และทีมผู้นำชุมชน ในด้านการบริหารงานชุมชน
๕. จัดเวทีเรียนรู้ นำเสนอผลการบริหารงานในชุมชน ปัญหา แนวทางแก้ไข
๖. สรุปผลการดำเนินงานจากการร่วมกันทำงานของผู้นำ อช. อช. และทีมผู้นำชุมชน
การสร้างความเข้าใจแก่ผู้นำ อช./ อช.และทีมผู้นำชุมชน โดยใช้บทบาทหน้าที่ของผู้นำ อช.ดังนี้
(1) กระตุ้นให้องค์กรประชาชน รู้สภาพปัญหาของหมู่บ้านและสามารถวางแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาได้เอง รวมถึงการกระตุ้นให้ประชาชนรู้จักช่วยตนเอง และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(2) ริเริ่มและสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนา โดยเป็นที่ปรึกษากลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่ม
อาสาสมัคร ตลอดจนองค์กรประชาชน และกิจกรรมการพัฒนาต่าง ๆ
(3) ช่วยเหลือ สนับสนุน การดำเนินงานตามแผนงานโครงการหรือกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้าน
(4) เป็นผู้ประสานงานระหว่างองค์กรประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือเอกชนอื่น
(5) ปฏิบัติหน้าที่อื่น ตามที่เวทีประชาคม คณะกรรมการหมู่บ้าน/ทางราชการมอบหมาย
และสร้างความเข้าใจภารกิจหลักของอาสาพัฒนาชุมชน และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนไว้ ๘ ประการคือ
๑. การจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ข้อมูล กชช.๒ค
๒. การจัดทำแผนชุมชน
๓. การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๔. การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๕. การส่งเสริมวิถีประชาธิปไตย
๖. การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
๗. การจัดการศูนย์เรียนรู้ชุมชน
๘. การพัฒนาเด็ก
ส่วนที่ ๒
นำเสนอผลผลิต และผลลัพธ์ หรือนวตกรรมที่เกิดจากการจัดการความรู้
จากการดำเนินการตาม “โครงการเทคนิคการทำงานกับผู้นำ อช.ตามบทบาทหน้าที่ในการกระตุ้นชุมชนให้เกิดการพัฒนา” โดยมีผู้เข้าร่วมการดำเนินงานตามโครงการนี้ คือ ผู้นำ อช. (นายอุสมาน แวเต๊ะ) เป็นตัวหลัก ซึ่งนายอุสมานฯ เป็นผู้นำ อช.ชาย ตำบลกาบัง พื้นที่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ ๗ บ้านกาบัง และเคยได้รับรางวัลผู้นำ อช.ชายดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี ๒๕๕๖ ตามโครงการเชิดชูเกียรติผู้นำชุมชน องค์กรเครือข่ายของกรมการพัฒนาชุมชน อช.เป็นผู้ร่วม และทีมผู้นำชุมชน ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านฯ ผู้นำศาสนา ผู้นำสตรี/เยาวชน)
และจากการที่ นายอุสมาน แวเต๊ะ ผู้นำ อช. ต.กาบัง มีบ้านพักอาศัยอยู่ ณ บ้านกาบัง หมู่ที่ ๗ ตำบลกาบัง อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา และด้วย นายอุสมานฯ เป็นผู้ที่มีจิตใจอาสา ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอด ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านกาบัง ให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีกด้วย จึงทำให้เป็นการปูทางในการดำเนินงานตามโครงการนี้อีกทางหนึ่ง
ผลการดำเนินงานพอสรุปได้ ดังนี้
๑. นายอุสมาน แวเต๊ะ ผู้นำ อช.ดีเด่น ได้รับความไว้วางใจจากผู้นำชุมชน และเป็นที่ยอมรับของประชาชน/ทีมงานทั้งในหมู่บ้านและจากภาคราชการและเอกชน สามารถบูรณาการการทำงานได้จากทุกภาคส่วน โดยใช้ความมีจิตอาสา การรู้จักสำนึกในบทบาทหน้าที่ของผู้นำ อช. และเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้นำชุมชน/ทีมงานได้ขับเคลื่อนงาน ทีมงานในหมู่บ้านได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
๒. ผู้นำชุมชน/ทีมงาน ได้รับการกระตุ้น เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในการพัฒนาชุมชน
๓. เกิดความสามัคคีในทีมงานผู้นำชุมชน ร่วมมือในการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่
๔. ผู้นำชุมชน/ทีมงาน เข้าใจการบริหารงานและสามารถบริหารงานในพื้นที่เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น
๕. เป็นการสร้างทีมงาน เกิดการพัฒนาศักยภาพและเกิดภาวะผู้นำ
๖. ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างอาสาสมัคร/ผู้นำชุมชน/ทีมงานกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ
๗. ทำให้เกิดการบูรณาการระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐ
วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557
กองทุนแม่ของแผ่นดินสู่การออม
ชื่อความรู้ กองทุนแม่ของแผ่นดินสู่การออม
เจ้าของความรู้ นางสาวจิตรา หนูมาก
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
แก้ปัญหาเกี่ยวกับ การส่งเสริมการออม/การบริหารจัดการกลุ่มแบบธรรมาภิบาล/การบริหารจัดการทุน
แบบมีส่วนร่วม
เรื่องเล่า
๑. ส่วนนำ
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซึ่งเป็นการขยายพลังแห่งความดีของคนในหมู่บ้าน และชุมชน เสริมสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนความคิดความรู้ร่วมกันภายในหมู่บ้าน และชุมชน ร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน จัดตั้งกองทุนในการสนับสนุนกิจกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชน สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงปัญหาอื่นๆ ในหมู่บ้าน และชุมชน
เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุนแม่ของแผ่นดิน สรุปได้ดังนี้คือ
- เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด
-เพื่อเฝ้าระวังคนในชุมชนให้ห่างไกลยาเสพติด
-เพื่อส่งเสริมอาชีพคนในชุมชน
-เพื่อช่วยเหลือคนยากจนในชุมชน
-เพื่อสร้างสวัสดิการในชุมชน
-เพื่อสร้างความสามัคคีในชุมชน
-ฯลฯ บ้านอัยเยอร์เบอร์จัง หมู่ที่ ๑ ตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาอย่างต่อเนื่อง จนมีกิจกรรมเป็นที่ประจักษ์และสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ได้
จากความสามัคคีของคนในชุมชนที่ร่วมกันดำเนินกิจกรรมมาโดยตลอดจนเป็นกลุ่มที่เข้มแข็ง ประกอบกับในหมู่บ้านยังไม่มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต และจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๐
ได้กำหนดยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและสังคมให้เป็นฐานรากที่มั่นคงของประเทศโดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างทุนของประเทศที่มีอยู่ทั้งที่เป็นทุนทางสังคมทุนเศรษฐกิจและทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องมีการพัฒนาอย่างเชื่อมโยง ดังนั้น การเสริมสร้างความมั่นคงของเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก จำเป็นต้องให้ความสำคัญและพัฒนาควบคู่กันไปทั้งทุนทางกายภาพ ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนทางธรรมชาติ และด้านเงินทุน
กรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน และมียุทธศาสตร์ในพัฒนาทุนชุมชนและพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนให้เข้มแข็ง ในการเสริมสร้างและพัฒนาระบบทุนชุมชน การบริหารจัดการทุนชุมชน ตลอดจนประสานงานและแสวงหาความร่วมมือในการพัฒนารูปแบบ/วิธีการขยายกิจกรรมของทุนชุมชน โดยมุ่งเน้นให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ ในฐานะนักวิชาการพัฒนาชุมชน มีภารกิจในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการพัฒนาระบบและกลไกในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การจัดการความรู้ การอาชีพ การออม และการบริหารจัดการเงินทุนของชุมชนได้ร่วมสนับสนุนให้ประชาชนในชุมชนรู้จักวิธีการบริหารจัดการกองทุนในชุมชนเพื่อการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเงินทุนและปัญหาความยากจน โดยส่งเสริมให้มีการก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตขึ้นในชุมชนในกลุ่มจึงมีมติที่จะสร้างกลุ่มออมทรัพย์ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการออมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต และใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารชุมชนด้วยชุมชนเองจึงได้จัดตั้ง “กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านอัยเยอร์เบอร์จัง” ขึ้น
๒. ส่วนขยาย
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านอัยเยอร์เบอร์จัง ปัจจุบันมียอดเงินสัจจะสะสม ประมาณ ๒๔๐,๐๐๐ บาท โดยมีสมาชิกทั้งหมดประมาณ ๖๐ กว่าราย ส่งเงินสัจจะสะสมอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มดำเนินการจัดสรรเงินปล่อยกู้ให้กับสมาชิกโดยดำเนินการตามแนวทางกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
เพื่อนำผลกำไรมาจัดสรรเป็นสวัสดิการให้กับคนในชุมชน จัดกิจกรรมด้านสาธารณะประโยชน์ของกลุ่ม
ที่เชื่อมโยงกับประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่สร้างศักภาพของชุมชนได้อย่างยั่งยืน สามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับสมาชิกกลุ่มและชุมชนเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับคนในชุมชนโดยเฉพาะกลุ่มอาชีพที่ต้องรักษาไว้ ช่วยเหลือคนเป็นหนี้นอกระบบ ให้สามารถเป็นแหล่งทุนชุมชนที่สามารถช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกกลุ่มในด้านการเงินตลอดจนเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างการเรียนรู้ของคนในชุมชนในการบริหารกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตามหลักคุณธรรม๕ประการได้แก่
๑.ความซื่อสัตย์
๒.ความเสียสละ
๓.ความรับผิดชอบ
๔.ความเห็นอกเห็นใจ
๕.ความไว้วางใจกันและกัน
บันทึกขุมความรู้(Knowledge Assets)
๑. ปลุกกระแสสร้างอุดมการณ์สู่การปฏิบัตินำไปสู่ความสำเร็จ
๒. การบริหารจัดการที่จะทำให้กลุ่มฯ ประสบผลสำเร็จ และไม่มีปัญหา เพราะการบริหารจัดการเงินทุนเป็น
เรื่องยาก ต้องให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
๓. จัดเวทีประชาคมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานและเพื่อฟังความคิดเห็น ทุกระดับ
๔. ดำเนินการตรวจสุขภาพทางการเงินกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน
โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับสูงสุด
แก่นความรู้(Core Competency)
๑. ศึกษาข้อมูลกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตอย่างละเอียด
๒. ศึกษาแนวทางและหลักเกณฑ์ พร้อมทั้งเครื่องมือในการดำเนินงานอย่างละเอียด และรอบคอบ
๓. ปรึกษาหารือ จัดเวทีประชาคม ชี้แจงทำความเข้าใจทุกขั้นตอน
๔. ให้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินงาน
๕. การติดตามสนับสนุนมีผลต่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
๖. การตรวจสุขภาพทางการเงินกองทุนชุมชนของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเป็นเครื่องมือที่สร้างความกระตือรือร้นในการพัฒนากลุ่มฯ
กลยุทธ์ในการทำงาน
๑. ศึกษาข้อมูลกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในด้านคณะกรรมการบริหาร ระเบียบ การปฏิบัติตามระเบียบ สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน
๒. ศึกษาแนวทางและหลักเกณฑ์ พร้อมทั้งเครื่องมือในการดำเนินงานอย่างละเอียด และรอบคอบโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานทุกขั้นตอนเพื่อให้การพัฒนาศักยภาพของชุมชนตนเองเป็นไปอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
๓. ปรึกษาหารือ จัดเวทีประชาคม ชี้แจงทำความเข้าใจทุกขั้นตอน
๔. ดำเนินการโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินงานใช้หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารกลุ่มฯเพราะชุมชนสามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้อย่างดียิ่งเกิดความภาคภูมิใจ ด้วยความเสียสละ ร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน ทำให้ชุมชนสามารถมีศักยภาพ เป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน
กฎระเบียบ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
๑. หลักการ/แนวทาง/การส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้ง การดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
๒.เทคนิคการทำงานกับชาวบ้าน
๓.กระบวนการมีส่วนร่วม
๔. หลักการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตยึดมั่นใน “สัจจะ” ที่มีต่อตนเอง
๕. หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๓. ส่วนสรุป
๑. สมาชิกจะมีเงินเก็บอย่างไม่รู้ตัวแต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
๒. บรรเทาเหตุจำเป็น/ฉุกเฉิน ไม่ต้องเป็นหนี้นอกระบบ
๓.สมาชิกรู้จักประหยัดและมีเงินออมไว้ใช้ยามจำเป็น
๔. ให้สมาชิกมีนิสัยรักการออม
๕.สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวสมาชิก
๖.เป็นการช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลุ่มสมาชิก
๗.สมาชิกได้รับทราบบทบาทหน้าที่มีส่วนร่วมรวมถึงสิทธิประโยชน์ของตนตามระเบียบของกลุ่มออมทรัพย์และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กลุ่มออมทรัพย์กำหนด
๘. ให้ชุมชนบริหารชุมชนด้วยชุมชนเองบริหารจัดการทุนชุมชนแบบมีส่วนร่วม
๙. สามารนำเงินที่มีอยู่ในทุนชุมชนไปพัฒนาอาชีพในชุมชน ส่งเสริมสวัสดิการในชุมชน
๔. ที่อยู่/เบอร์โทรศัพท์
๑๘๐ ถนนอรรถเวที ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทร...๐๗๓-๒๓๑๑๔๗ , ๐๘๙-๙๗๔๙๐๖๙
เจ้าของความรู้ นางสาวจิตรา หนูมาก
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
แก้ปัญหาเกี่ยวกับ การส่งเสริมการออม/การบริหารจัดการกลุ่มแบบธรรมาภิบาล/การบริหารจัดการทุน
แบบมีส่วนร่วม
เรื่องเล่า
๑. ส่วนนำ
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซึ่งเป็นการขยายพลังแห่งความดีของคนในหมู่บ้าน และชุมชน เสริมสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนความคิดความรู้ร่วมกันภายในหมู่บ้าน และชุมชน ร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน จัดตั้งกองทุนในการสนับสนุนกิจกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชน สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงปัญหาอื่นๆ ในหมู่บ้าน และชุมชน
เป้าหมายของการจัดตั้งกองทุนแม่ของแผ่นดิน สรุปได้ดังนี้คือ
- เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด
-เพื่อเฝ้าระวังคนในชุมชนให้ห่างไกลยาเสพติด
-เพื่อส่งเสริมอาชีพคนในชุมชน
-เพื่อช่วยเหลือคนยากจนในชุมชน
-เพื่อสร้างสวัสดิการในชุมชน
-เพื่อสร้างความสามัคคีในชุมชน
-ฯลฯ บ้านอัยเยอร์เบอร์จัง หมู่ที่ ๑ ตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาอย่างต่อเนื่อง จนมีกิจกรรมเป็นที่ประจักษ์และสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ได้
จากความสามัคคีของคนในชุมชนที่ร่วมกันดำเนินกิจกรรมมาโดยตลอดจนเป็นกลุ่มที่เข้มแข็ง ประกอบกับในหมู่บ้านยังไม่มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต และจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๐
ได้กำหนดยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและสังคมให้เป็นฐานรากที่มั่นคงของประเทศโดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างทุนของประเทศที่มีอยู่ทั้งที่เป็นทุนทางสังคมทุนเศรษฐกิจและทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องมีการพัฒนาอย่างเชื่อมโยง ดังนั้น การเสริมสร้างความมั่นคงของเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก จำเป็นต้องให้ความสำคัญและพัฒนาควบคู่กันไปทั้งทุนทางกายภาพ ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนทางธรรมชาติ และด้านเงินทุน
กรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน และมียุทธศาสตร์ในพัฒนาทุนชุมชนและพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนให้เข้มแข็ง ในการเสริมสร้างและพัฒนาระบบทุนชุมชน การบริหารจัดการทุนชุมชน ตลอดจนประสานงานและแสวงหาความร่วมมือในการพัฒนารูปแบบ/วิธีการขยายกิจกรรมของทุนชุมชน โดยมุ่งเน้นให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ ในฐานะนักวิชาการพัฒนาชุมชน มีภารกิจในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการพัฒนาระบบและกลไกในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การจัดการความรู้ การอาชีพ การออม และการบริหารจัดการเงินทุนของชุมชนได้ร่วมสนับสนุนให้ประชาชนในชุมชนรู้จักวิธีการบริหารจัดการกองทุนในชุมชนเพื่อการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเงินทุนและปัญหาความยากจน โดยส่งเสริมให้มีการก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตขึ้นในชุมชนในกลุ่มจึงมีมติที่จะสร้างกลุ่มออมทรัพย์ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการออมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต และใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารชุมชนด้วยชุมชนเองจึงได้จัดตั้ง “กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านอัยเยอร์เบอร์จัง” ขึ้น
๒. ส่วนขยาย
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านอัยเยอร์เบอร์จัง ปัจจุบันมียอดเงินสัจจะสะสม ประมาณ ๒๔๐,๐๐๐ บาท โดยมีสมาชิกทั้งหมดประมาณ ๖๐ กว่าราย ส่งเงินสัจจะสะสมอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มดำเนินการจัดสรรเงินปล่อยกู้ให้กับสมาชิกโดยดำเนินการตามแนวทางกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
เพื่อนำผลกำไรมาจัดสรรเป็นสวัสดิการให้กับคนในชุมชน จัดกิจกรรมด้านสาธารณะประโยชน์ของกลุ่ม
ที่เชื่อมโยงกับประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่สร้างศักภาพของชุมชนได้อย่างยั่งยืน สามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับสมาชิกกลุ่มและชุมชนเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับคนในชุมชนโดยเฉพาะกลุ่มอาชีพที่ต้องรักษาไว้ ช่วยเหลือคนเป็นหนี้นอกระบบ ให้สามารถเป็นแหล่งทุนชุมชนที่สามารถช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกกลุ่มในด้านการเงินตลอดจนเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างการเรียนรู้ของคนในชุมชนในการบริหารกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตามหลักคุณธรรม๕ประการได้แก่
๑.ความซื่อสัตย์
๒.ความเสียสละ
๓.ความรับผิดชอบ
๔.ความเห็นอกเห็นใจ
๕.ความไว้วางใจกันและกัน
บันทึกขุมความรู้(Knowledge Assets)
๑. ปลุกกระแสสร้างอุดมการณ์สู่การปฏิบัตินำไปสู่ความสำเร็จ
๒. การบริหารจัดการที่จะทำให้กลุ่มฯ ประสบผลสำเร็จ และไม่มีปัญหา เพราะการบริหารจัดการเงินทุนเป็น
เรื่องยาก ต้องให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
๓. จัดเวทีประชาคมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานและเพื่อฟังความคิดเห็น ทุกระดับ
๔. ดำเนินการตรวจสุขภาพทางการเงินกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน
โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับสูงสุด
แก่นความรู้(Core Competency)
๑. ศึกษาข้อมูลกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตอย่างละเอียด
๒. ศึกษาแนวทางและหลักเกณฑ์ พร้อมทั้งเครื่องมือในการดำเนินงานอย่างละเอียด และรอบคอบ
๓. ปรึกษาหารือ จัดเวทีประชาคม ชี้แจงทำความเข้าใจทุกขั้นตอน
๔. ให้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินงาน
๕. การติดตามสนับสนุนมีผลต่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
๖. การตรวจสุขภาพทางการเงินกองทุนชุมชนของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเป็นเครื่องมือที่สร้างความกระตือรือร้นในการพัฒนากลุ่มฯ
กลยุทธ์ในการทำงาน
๑. ศึกษาข้อมูลกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในด้านคณะกรรมการบริหาร ระเบียบ การปฏิบัติตามระเบียบ สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน
๒. ศึกษาแนวทางและหลักเกณฑ์ พร้อมทั้งเครื่องมือในการดำเนินงานอย่างละเอียด และรอบคอบโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานทุกขั้นตอนเพื่อให้การพัฒนาศักยภาพของชุมชนตนเองเป็นไปอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
๓. ปรึกษาหารือ จัดเวทีประชาคม ชี้แจงทำความเข้าใจทุกขั้นตอน
๔. ดำเนินการโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินงานใช้หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารกลุ่มฯเพราะชุมชนสามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้อย่างดียิ่งเกิดความภาคภูมิใจ ด้วยความเสียสละ ร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน ทำให้ชุมชนสามารถมีศักยภาพ เป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน
กฎระเบียบ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
๑. หลักการ/แนวทาง/การส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้ง การดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
๒.เทคนิคการทำงานกับชาวบ้าน
๓.กระบวนการมีส่วนร่วม
๔. หลักการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตยึดมั่นใน “สัจจะ” ที่มีต่อตนเอง
๕. หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๓. ส่วนสรุป
๑. สมาชิกจะมีเงินเก็บอย่างไม่รู้ตัวแต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
๒. บรรเทาเหตุจำเป็น/ฉุกเฉิน ไม่ต้องเป็นหนี้นอกระบบ
๓.สมาชิกรู้จักประหยัดและมีเงินออมไว้ใช้ยามจำเป็น
๔. ให้สมาชิกมีนิสัยรักการออม
๕.สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวสมาชิก
๖.เป็นการช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลุ่มสมาชิก
๗.สมาชิกได้รับทราบบทบาทหน้าที่มีส่วนร่วมรวมถึงสิทธิประโยชน์ของตนตามระเบียบของกลุ่มออมทรัพย์และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กลุ่มออมทรัพย์กำหนด
๘. ให้ชุมชนบริหารชุมชนด้วยชุมชนเองบริหารจัดการทุนชุมชนแบบมีส่วนร่วม
๙. สามารนำเงินที่มีอยู่ในทุนชุมชนไปพัฒนาอาชีพในชุมชน ส่งเสริมสวัสดิการในชุมชน
๔. ที่อยู่/เบอร์โทรศัพท์
๑๘๐ ถนนอรรถเวที ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทร...๐๗๓-๒๓๑๑๔๗ , ๐๘๙-๙๗๔๙๐๖๙
การปรับกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม และค่านิยมองค์กร
ชื่อความรู้ การปรับกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม
และค่านิยมองค์กร
เจ้าของความรู้ นายประพันธ์ ทองสีดำ
ตำแหน่ง/สังกัด พัฒนาการอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
แก้ปัญหาเกี่ยวกับ การส่งเสริมและสนับสนุนการนำค่านิยมองค์กรสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน
เรื่องเล่า ค่านิยมองค์กร ABC DEF
๑. ส่วนนำ
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลาประสบผลสำเร็จได้หรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับบุคลากรของสำนักงานฯ เป็นสำคัญ เพราะหากบุคลากรยังมีกระบวนทัศน์
วัฒนธรรม และค่านิยมที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบบราชการ หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
แล้ว ก็จะเป็นการยากที่จะทำให้การพัฒนาระบบราชการของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลาประสบผลสำเร็จ
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตงซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดหน่วยงานข้างต้นก็ติดอยู่ในกรอบแนวคิดนี้เช่นกัน
ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จในการพัฒนาหรือการจะเปลี่ยนแปลงองค์กรใด
ๆ ขึ้นอยู่กับทัศนคติของบุคลากรเป็นสำคัญ ดังที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของข้าราชการ ยุคใหม่ไว้ดังนี้
I : Integrity การปฏิบัติงานอย่างมีศักดิ์ศรี
คำอธิบาย : การทำงานด้วยความซื่อสัตย์
สุจริต และทุ่มเทให้กับการทำงาน ภายใต้กฎระเบียบและวิชาชีพ
เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน และส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
A : Activeness ความขยัน ตั้งใจทำงาน
ปฏิบัติงานเชิงรุก
คำอธิบาย : การทำงานด้วยความกระตือรือร้น
มีความรู้ มีความสามารถในงานที่รับผิดชอบ มีความคิดสร้างสรรค์
พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
และพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อให้งานสำเร็จตามที่ได้รับมอบหมายอย่างมีคุณภาพและทันเวลา
M : Morality การมีใจคุณธรรม
ปฏิบัติราชการด้วยใจบริสุทธิ์ และกุศลเจตนา
คำอธิบาย : การปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับหลักศาสนา
และกฎระเบียบต่าง ๆ เช่น คุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส
รวมถึงการปฏิบัติงานที่ปราศจากอคติ และมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียน
R : Relevancy การเรียนรู้
และปรับตัวทันโลกตรงกับสังคม
คำอธิบาย : การยอมรับและเรียนรู้เครื่องมือ
เทคโนโลยี และความคิดใหม่ๆ
รวมถึงความสามารถในการประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนากระบวนงาน
E : Efficiency การทำงานที่มีประสิทธิภาพ
สามารถวัดและแสดงได้อย่างชัดเจน
คำอธิบาย : การพัฒนาบุคลากร
ระบบงาน และการให้บริการเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ถูกต้อง
และปลอดภัยในการปฏิบัติงาน รวมถึงการมุ่งให้งานสำเร็จโดยใช้ต้นทุนต่ำ
A :
Accountability ความรับผิดชอบต่อผลสำเร็จของงาน
และต่อสาธารณะ
คำอธิบาย : ปฏิบัติราชการโดยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนที่จะต้องทำประโยชน์เพื่อประชาชนและสังคม
รวมถึงความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย พร้อมที่จะถูกตรวจสอบและเปิดรับฟังข้อเสนอแนะหรือทำประชาพิจารณ์จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยให้ความสำคัญต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่
D : Democracy การมีใจเป็นประชาธิปไตย
คำอธิบาย : การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากบุคลากร
ทีมงาน ผู้รับบริการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงรูปแบบการทำงานเป็นทีม
และการแต่งตั้งคณะทำงานมากขึ้น
Y : Yield การมีผลงานเป็นที่ประจักษ์
และปฏิบัติงานโดยเน้นผลสัมฤทธิ์เป็นสำคัญ
คำอธิบาย : ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ
หรือบรรลุเป้าหมายตามตัวชี้วัด โดยผลงานต้องได้มาตรฐานตามกำหนดเวลา
ลดขั้นตอนในการทำงาน ประชาชนพึงพอใจ โดยมุ่งผลลัพธ์มากกว่าขั้นตอนและระเบียบแบบแผน
จากภารกิจสำคัญในการปฏิรูประบบราชการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการดังกล่าว
กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้ดำเนินการศึกษาและพัฒนากระบวนการออกแบบค่านิยมองค์กร ๔ Ds Phasing โดยมีอาจารย์จากสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ( ดร.อรัญ โสตถิพันธุ์) เป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงานตามกระบวนการโดยดำเนินการศึกษาค่านิยมที่พึงประสงค์ของกรมการพัฒนาชุมชนตามจุดแข็งของบุคลากรและตามบริบทในการปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคน
ซึ่งมีผลลัพธ์ดังนี้
A : Appreciation ชื่นชมผู้อื่น
คำอธิบาย : การทำงานพัฒนาชุมชนถ้าเราไม่สามารถชื่นชมบุคคลอื่นจะทำให้การทำงานแบบ
Work
With ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย
คนที่เป็นนักพัฒนาจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ว่าจะชื่นชมผู้อื่นได้อย่างไร
นอกจากนี้ตัว A หรือ Appreciation ยังเป็นอักษรตัวแรกของกระบวนการฝึกอบรมตามเทคนิค
AIC ซึ่งเทคนิค AIC จะมุ่งให้ผู้ที่อยู่ในกระบวนการได้รู้จักชื่นชมผู้อื่นก่อน
เป็นลำดับแรก โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. ทักทาย
สวัสดี ยกมือไหว้ ยิ้มแย้มแจ่มใส
๒. มีปิยะวาจา
กล่าวคำขอบคุณ ขอโทษ ไม่เป็นไรตามโอกาสให้เป็นนิสัย
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของผู้อื่น
๒. ยกย่อง ชมเชย
ความรู้ความสามารถของผู้อื่น
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. แสดงออก พูด
คิด ทำ ในเชิงสร้างสรรค์
๒. เป็นแบบอย่างของผู้ร่วมงานและทีมงานที่ดี
B : Bravery
กล้าหาญ
คำอธิบาย : ต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจในการทำงาน
กล้าที่จะเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานทั้งเชิงสร้างสรรค์
และเชิงคัดค้าน รวมถึงกล้าที่จะชื่นชมผู้อื่น โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน
๒. ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ยอมรับความคิดเห็น
ข้อวิพากษ์ และข้อวิจารณ์ของผู้อื่นได้
๒. รับผิดชอบต่อผลงาน
และผลการกระทำของตนเอง
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. เป็นแบบอย่างในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
๒. กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
C : Creativity ริเริ่มสร้างสรรค์
คำอธิบาย : ต้องมีความกล้าที่จะคิดริเริ่มสร้างสรรค์
กระตุ้น และผลักดันให้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นั้นปรากฏผลเป็นรูปธรรม โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง
๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. พัฒนาและปรับปรุงงานที่รับผิดชอบเสมอ
๒. แสดงความคิดเห็นใหม่
ๆ ในการทำงาน
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. นำความคิดมาพัฒนางาน
และเสนอผลงานให้แตกต่างและดีกว่าเดิม
๒. วิจัย
และพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. มีนวัตกรรมในการทำงาน
๒. เป็นตัวอย่างในการส่งเสริมให้เพื่อนร่วมงานคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์
D : Discovery ใฝ่หาความรู้
คำอธิบาย : ต้องมีความกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรู้
จึงจะเกิดหรือค้นพบในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน
และนำความรู้ที่ค้นพบมาเป็นพื้นฐานในการทำงาน โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ
ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. กระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
๒. ชอบตั้งคำถาม
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. สามารถนำความรู้มาพัฒนางานได้
๒. ชอบค้นหาความรู้ใหม่
ๆ
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. มีการเรียนรู้และพัฒนางานของตนเองอย่างต่อเนื่อง
๒. มีผลงานจากการนำความรู้มาปฏิบัติจนเห็นเป็นรูปธรรม
E : Empathy
เข้าอกเข้าใจ
คำอธิบาย : ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น
หรือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยพยายามเข้าใจว่าทำไมเขาจึงเป็นเช่นนั้น
(ไม่ใช่การเห็นอกเห็นใจ หรือการไม่รู้สึกอะไรเลย) โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ
ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. เป็นผู้ฟังที่ดี
๒. รับรู้เรื่องราวต่าง
ๆ อย่างมีเหตุมีผล
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ยอมรับความแตกต่างของบุคคลอื่น
๒. รู้และเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเข้าอกเข้าใจอย่างมีเมตตา
๒. ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ
F : Facilitation เอื้ออำนวยความสะดวก
คำอธิบาย : เป็นวิธีการหนึ่งของนักพัฒนาที่จะต้องเอื้ออำนวยให้ผู้อื่นสามารถทำกิจกรรมจนบรรลุเป็นผลสำเร็จได้ตามต้องการ
โดยมีเกณฑ์บ่งชี้พฤติกรรมทั้ง ๓ ระดับ ดังนี้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับพื้นฐาน
๑. วางตัวให้เหมาะสมตามกาลเทศะ
๒. มีทักษะในการสื่อสารให้บุคคลอื่นสามารถเข้าใจและปฏิบัติได้
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับท้าทาย
๑. ให้โอกาสผู้อื่นในการคิดและตัดสินใจ
๒. ช่วยทำให้งานของผู้อื่นง่ายขึ้น
และเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในระดับต้นแบบ
๑. ช่วยทำให้การทำงานของผู้อื่นมีประสิทธิภาพ
และเกิดประสิทธิผล
๒. เป็นแบบอย่างของผู้เอื้ออำนวย
๒. ส่วนขยาย
ก่อนตัดสินใจกำหนดดำเนินการปรับกระบวนทัศน์
วัฒนธรรมและค่านิยมองค์กรของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตง ทีมงานพิจารณาแล้วเห็นว่า
“ทำอย่างไรบุคลากรจึงจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข รักใคร่ สามัคคีปรองดองแบบพี่แบบน้อง
มีชีวิตชีวา ไม่แข็งกระด้าง สักแต่จะทำงานให้จบไปวันๆ” จากแนวคิดดังกล่าว
จึงนำไปสู่การกำหนดแนวปฏิบัติ “งานได้ผล คนมีค่านิยม และมีความสุข” ตาม ๖ ขั้นตอน
ดังนี้
ขั้นตอนที่
๑
กำหนดยุทธศาสตร์ของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเบตง ประจำปี ๒๕๕๗ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของบุคลากรในสำนักงานฯ
และกำหนดไว้อย่างเป็นทางการ
ขั้นตอนที่
๒ จัดทำแผนงาน “ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมฯ
ด้วยค่านิยมองค์กร” โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ
ขั้นตอนที่
๓ กำหนดตัวชี้วัด
และค่าเป้าหมายในการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ที่
|
ตัวชี้วัด
|
น้ำหนัก
|
คะแนน
|
เป้าหมาย
|
หมายเหตุ
|
๑
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ชื่นชม” (Appreciation)
|
๑๖
|
๕
|
ร้อยละ
๘๐ ของบุคลากร สพอ.เบตง (๔ คน)
ที่ได้คะแนนประเมินรวม ๖ ข้อ
แต่ละตัวชี้วัด ตั้งแต่ ๒๔-๓๐ คะแนน
|
|
๒
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “กล้าหาญ” (Bravery)
|
๑๖
|
๕
|
||
๓
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “สร้างสรรค์” (Creativity)
|
๑๖
|
๕
|
||
๔
|
ร้อยละของบุคลากร สพอ.เบตง
ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ใฝ่รู้” (Discovery)
|
๑๖
|
๕
|
||
๕
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เข้าใจ” (Empathy)
|
๑๖
|
๕
|
||
๖
|
ร้อยละของบุคลากร
สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เอื้ออำนวย” (Facilitation)
|
๒๐
|
๕
|
||
รวม
|
๑๐๐
|
เกณฑ์การให้คะแนนตัวชี้วัด
- ตัวชี้วัด ABC DEF (ข้อ ๑ - ๖)
ตัวอย่าง
เกณฑ์การให้คะแนนตัวชี้วัดค่านิยม “ชื่นชม”
ร้อยละ
๘๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (5 คะแนน)
|
ร้อยละ
๗๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (4 คะแนน)
|
ร้อยละ
๖๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (3 คะแนน)
|
ร้อยละ
๕๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (2 คะแนน)
|
ร้อยละ
๔๐ ของบุคลากรสพอ.เบตงที่มีผลการประเมินระหว่าง 24 – 30
คะแนน (1 คะแนน)
|
ขั้นตอนที่ ๔
จัดทำแผนปฏิบัติการฯ โดยกำหนดกิจกรรมที่จะต้องปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนค่านิยมองค์กรทั้ง
๖ ตัวชี้วัดให้บรรลุเป้าหมาย
ขั้นตอนที่ ๕ ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการโดยจัดทีมขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร
ดังนี้
ทีมที่
๑ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๑
ร้อยละของบุคลากร สพอ.เบตงที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ชื่นชม” (Appreciation)
ทีมที่ ๒
รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๒ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตงที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “กล้าหาญ” (Bravery)
ทีมที่
๓ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๓ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม“สร้างสรรค์” (Creativity)
ทีมที่
๔ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๔
ร้อยละของบุคลากร สพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “ใฝ่รู้” (Discovery)
ทีมที่
๕ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๕ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เข้าใจ” (Empathy)
ทีมที่
๖ รับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๖ ร้อยละของบุคลากรสพอ.เบตง ที่ได้เสริมสร้างค่านิยม “เอื้ออำนวย” (Facilitation)
นอกจากนี้
เพื่อสร้างผู้รับผิดชอบหลักในการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กรให้เป็นรูปธรรมชัดเจน
สพอ.เบตง จึงได้ดำเนินการคัดเลือกทูตค่านิยมองค์กรทีมละ ๑ คน (บุคลากรมี
๔ คน จึงซ้ำกัน) โดยกำหนดให้มีหน้าที่ ดังนี้
๑. ศึกษาและแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ดีตามแนวทางของค่านิยมองค์กร
ABC
DEF เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เพื่อนร่วมงาน
๒. ส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากร
ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามตัวชี้วัดที่ยังมีคะแนนประเมินต่ำกว่าเกณฑ์
๓. ทำหน้าที่ประสานงานภายในทีมและนอกทีม
๔. ทำหน้าที่ประเมินผลในภาพรวมของการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร
๕. ทำหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
และ สพอ.เบตง ได้ดำเนินการกำหนดปัจจัยหลัก
และวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาที่ส่งผลสำเร็จต่อการนำค่านิยมองค์กร ABC DEF สู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
ด้วยเครื่องมือ ดังนี้
๑) การประเมินตนเองเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข
หลังจากการวิเคราะห์ปัจจัยหลักและสาเหตุของปัญหาร่วมกันแล้ว
ก็จัดให้ทุกคน ได้ประเมินตนเอง
โดยเริ่มประเมินตนเองในการนำค่านิยมองค์กร ABC DEF ไปปฏิบัติ
โดยใช้แบบฟอร์ม ที่กำหนดขึ้น
ซึ่งประกอบด้วย การประเมินโดยตนเอง (SA) และการประเมินโดยเพื่อนร่วมงาน
(ทุกคน) และนำผลการประเมินทั้งสองแบบมาเปรียบเทียบกัน
หากพบว่าข้อใดมีคะแนนจากเพื่อนร่วมงานอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าคะแนนที่ได้จากการประเมินตนเอง
ให้บุคคลผู้นั้นวางแผนพัฒนาตนเอง ซึ่งจะมีการประเมินผลอีก 2 ครั้ง
เพื่อติดตามพฤติกรรมว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร
๒) การนำผลการประเมินตนเองสู่การปรับปรุงแก้ไข/สร้างแรงจูงใจ
ทีมงาน
สพอ.เบตง กำหนดกิจกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติตามค่านิยม ABC DEF โดยได้พิจารณาจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมสนับสนุน/สร้างแรงจูงใจ ให้บุคลากร ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามค่านิยม ABC DEF ที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนและต่อเนื่อง
โดยกำหนดให้มีกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่
๑ “ปฏิบัติอย่างไร
ให้คนอื่นชื่นชม” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่
๑
กิจกรรมที่
๒ “ขอบอกว่าดี
และยังมีให้แก้ไข”
โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๒
กิจกรรมที่
๓ “แค่คิดใหม่ อะไร ๆ
ก็เปลี่ยนแปลง” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่
๓
กิจกรรมที่
๔ “ ความรู้อยู่ไหน ใคร ๆ ก็ถามหา”
โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๔
กิจกรรมที่
๕ “หนึ่งคนเข้าใจเรา” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๕
กิจกรรมที่
๖ “จงเป็นผู้เอื้ออำนวยเพื่อช่วยให้งานผู้อื่นง่ายขึ้น” โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมรับผิดชอบตัวชี้วัดที่ ๖
ตัวอย่างวิธีดำเนินการ
กิจกรรม “ปฏิบัติตนอย่างไร
ให้คนอื่นชื่นชม” (Appreciation)
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของผู้อื่น
๒. เพื่อยกย่องชมเชยความรู้
ความสามารถของผู้อื่น
๓. เพื่อให้มีการแสดงออก พูด คิด ทำเชิงสร้างสรรค์
๔. เพื่อให้เป็นแบบอย่างของผู้ร่วมงาน
และทีมงานที่ดี
วิธีการ ให้ทุกคนเขียนชื่อและคำชื่นชมของคนที่ตนเองชื่นชมทุก
๑๕ วัน ใส่ในกล่องที่เตรียมไว้ เมื่อสิ้นสุดกิจกรรมเปิดกล่องและรวบรวมจัดทำเป็นเล่มที่สวยงาม
มอบให้เจ้าตัวเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี
ขั้นตอนที่ ๖ การติดตามผลการปฏิบัติตามแผนฯ และการประเมินผล
๑.
แบบประเมินพฤติกรรมตามค่านิยม ABC DEF สำหรับตนเอง
(ทุกคนประเมินตนเอง) ซึ่งประกอบด้วย
จำนวน ๖
ตัวชี้วัดหลัก และ ๓๖ ตัวชี้วัดย่อย
๒.
แบบประเมินพฤติกรรมค่านิยม ABC DEF สำหรับการมีส่วนร่วมของทุกคน
ซึ่งประกอบด้วย จำนวน ๖ ตัวชี้วัดหลัก และ ๓๖ ตัวชี้วัดย่อย
๓.
แบบเปรียบเทียบผลการประเมินหากพบว่าคะแนนที่ได้ยังไม่ผ่านเกณฑ์
บุคคลผู้นั้นจะต้องวางแผนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
๓. ส่วนสรุป
นอกจากรูปแบบ (Model)
ที่ สพอ.เบตงนำเสนอทั้ง ๖ ขั้นตอนในการเสริมสร้างค่านิยมองค์กรในหน่วยงานอย่างยั่งยืนแล้วยังต้องใช้กลยุทธ์ในการเสริมสร้างค่านิยมองค์กรด้วยวิธีการ
ให้ดูผู้บริหารทุกระดับ
(จังหวัดและอำเภอ) ที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ด้วยหลักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา
และความเอื้ออารีต่อกัน นอกจากนี้ สพอ.เบตง ยังกำหนดให้บุคลากรในสังกัดทุกคนต้องยึดเป้าหมายในการทำงานร่วมกันคือ
“ประโยชน์สูงสุดของประชาชน” โดยนำ กลยุทธ์
๔ พ. มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร ดังนี้
๑) พึ่งตนเอง เน้นให้บุคลากรในสังกัดทำงานอย่างมืออาชีพ
ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี มีความตั้งใจ ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติภารกิจ
และมีความรอบรู้ในเนื้องานอย่างชัดเจน
๒) พอดี ส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดยึดหลักประชาธิปไตยในการทำงาน
ยอมรับหลักการมีส่วนร่วม มีความโปร่งใส
ปรับตัวได้เท่าทันตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง และมีความสมดุลย์ทั้งการใช้ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานในทุกมิติ
๓) พอเพียง สนับสนุนให้บุคลากรในสังกัดนำหลักความพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตการทำงาน
โดยคำนึงถึงความรอบคอบ ครอบคลุม มีเหตุมีผล มีศีลธรรมจรรยา
และความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
๔) พอใจ สพอ.เบตง สนับสนุน
และเอื้ออำนวยให้การทำงานของบุคลากรในสังกัดมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดย สพอ.เบตง
จะสนับสนุนการปฏิบัติตามภารกิจของหน่วยงานในทุกด้าน
และจะวัดผลสัมฤทธิ์ด้วยการวัดความพึงพอใจของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในการปฎิบัติงานตามภารกิจของกรมฯ
จากความมุ่งมั่นของบุคลากรในสังกัด สพอ.เบตง
ที่จะนำค่านิยมองค์กรไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนด้วย Model ที่นำเสนอและกลยุทธ์
๔ พ ...เพื่อรวมพลังก้าวสู่เป้าหมายสุดท้ายร่วมกัน นั่นคือ “
งานได้ผล คนมีสุข” นั่นเอง
...............................................................................................................................................
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)